วัสดุ:: | ABS, ซิลิกาเจล, PCB, เซนเซอร์ | ความแม่นยำ:: | 3mmHg |
---|---|---|---|
ช่วงการวัด:: | ความดัน 30 ถึง 280 mmHg | บริการหลังการขาย:: | การคืนและเปลี่ยนสินค้า |
การจำแนกเครื่องมือ:: | ชั้นII | พลัง:: | 4 * แบตเตอรี่ AAA / อะแดปเตอร์ |
แอปพลิเคชัน:: | ประเภทแขน | ชื่อผลิตภัณฑ์: | เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอลแบบแขนอัตโนมัติ |
เน้น: | เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล LCD,sphygmomanometer ดิจิตอลต้นแขน,เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิตอล 3mmHg |
1. ก่อนเปิดใช้งานเครื่องวัดความดันโลหิตให้ตรวจสอบก่อนเครื่องวัดความดันโลหิตปกติมักจะหมายถึง “0”
ตำแหน่ง.หลังจากกดแล้ว ปฏิกิริยาจะยืดหยุ่นและยังสามารถกลับสู่ตำแหน่ง "0" ได้
2. ขอให้บุคคลนั้นนั่งที่โต๊ะและวางแขนซ้ายบนโต๊ะเพื่อรักษาท่าทางที่สบาย
3. ปรับแขนให้สูงเท่าหัวใจถ้าความสูงไม่พอก็เอาเบาะรองใต้วงแขนได้
4. คลี่วงแขนเพื่อให้ส่วนตรงกลางของเข็มขัดหันไปทางหลอดเลือดแดงเรเดียลขอบล่างของวงแขนคือ 2 ถึง 3
ซม. ที่ข้อศอกต้นแขนไม่ตึงหรือหลวมเกินไปโดยทั่วไปควรสอดนิ้วสองนิ้วไว้ใต้แขนเสื้อมันคือ
เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อความถูกต้อง
5. ใส่หัวของหูฟังแพทย์เข้าไปในแถบรัดแขนแล้ววางลงบนหลอดเลือดแดงเรเดียลของข้อศอก
6. ค่อยๆ ขยายวงด้านในด้วยลูกยางและให้ความสนใจกับการตรวจสอบเมื่อจังหวะของหลอดเลือดแดงเรเดียล
หายไปความดันจะเพิ่มขึ้น 2.5 kPa-4 kPa (20 mmHg-30 mmHg) เพื่อหยุดสูบน้ำ
7. หลังจากหยุดความดันอากาศในแถบแขนจะค่อยๆ ปล่อยออกมาในอัตรา 0.3 kPa ถึง 0.6 kPa (2 mmHg ถึง 4 mmHg)
ต่อวินาที และตัวชี้ sphygmomanometer จะค่อยๆ ลดลง
8. ค่าความดันที่มือระบุเมื่อเสียงเคาะแรกที่ได้ยินโดยเครื่องตรวจฟังของแพทย์ขณะลงเขาคือ
ความดันซิสโตลิก
9. เมื่อเสียงบีตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเปลี่ยนเป็นเสียง จากนั้นโทนเสียงก็จะน่าเบื่อและค่อยเป็นค่อยไป
หายไปเมื่อไม่ได้ยินเสียงจะเป็นความดันไดแอสโตลิก
เมื่อวัดความดันโลหิตควรทำซ้ำ 2 ถึง 3 ครั้งและค่าที่อ่านได้จะเฉลี่ยเป็นความดันโลหิต
ค่า
ด้านหลังของเคส sphygmomanometer มีขอเกี่ยวโลหะที่แขวนไว้ที่สายรัดแขนเพื่อให้อ่านค่าได้ง่ายขึ้น